เมื่อผิวพรรณเกิดและโตมาพร้อมกับเรา เป็นสิ่งที่อยู่ร่วมกับเรามาตลอดชีวิต เราจึงเป็นคนที่รู้ดีที่สุดว่าเราเป็นคนผิวประเภทไหน สาวๆ รู้กันหรือไม่ว่าผิวของตัวเองเป็นผิวประเภทไหน ผิวแห้ง ผิวมัน หรือผิวธรรมดา เพราะผิวแต่ละประเภทมีวิธีดูแลผิวต่างกัน และถ้าคุณเป็นคนผิวแห้งแล้วล่ะก็บทความนี้จะแนะนำการดูแลผิวของสาวผิวแห้ง ว่าคุณควรจะดูแลผิวของคุณอย่างไร ใช้ครีมอย่างไรให้เหมาะกับผิวแห้ง วิธีพอกหน้า และข้อควรระวังต่างๆของคนผิวแห้ง สาวผิวแห้งควรจะดูแลผิวให้สดชื่นอยู่เสมอ ไม่ปล่อยให้ผิวแห้งจนเกิดร่องรอยหลุมลึกบนใบหน้า จนเกิดริ้วรอยแห่งวัยที่บ่งบอกว่าฉัน "หน้าแก่" กว่าเพื่อนในกลุ่ม
ลักษณะของผิวแห้ง (Dry Skin)
เป็นความโชคดีของคนผิวแห้ง คือ มีรูขุมขมเล็กทำให้ผิวหน้าเรียบเนียนและไม่ค่อยมีสิว ไม่ต้องคอยกังวลเรื่องสิวอุดตันและสิวเสี่ยน ผิวหน้ามันวาว เนื่องจากต่อมไขมันจะทำงานช้ากว่าปกติ
ข้อเสีย
ลักษณะของคนผิวแห้ง ซึ่งเกิดจากผิวขาดความชุ่มชื่นเนื่องจากต่อมไขมันทำงานช้ากว่าปกติ น้ำในเซลล์ผิวลดลง ผิวจึงแตกแห้งเป็นขุยอยู่บ่อยครั้ง และที่ร้ายแรงกว่านั้นคือ ผิวแห้งมักจะ "หน้าแก่เร็ว" เพราะผิวขาดน้ำขาดความชุ่มชื่น ทำให้ความยืดหยุ่นของผิวมีน้อย เกิดริ้วรอยเกิดขึ้นง่ายมาก
สาเหตุของการเกิดผิวแห้ง
- ต่อมไขมันบนใบหน้าทำงานได้น้อย ผิวหน้าจึงกักเก็บความชุ่มชื่นได้ไม่ดีพอ
- ฮอร์โมนในร่างกายทำงานผิดปกติ เมื่อช่วงเข้าสู่วัยรุ่นหน้ามันและเป็นสิวได้ง่าย แต่เมื่ออายุเพิ่มมากขึ้น สิวจะลดน้อยลง
- การถ่ายทอดทางพันธุกรรมอาจจะมีส่วนทำให้ผิวแห้งได้
- เกิดจากการแพ้เครื่องสำอางค์ การแพ้เครื่องสำอางค์บางประเภทอาจจะทำให้เกิดการระคายเคืองต่อผิว หน้าแห้งลอก เป็นผื่นแดง หรือล้างเครื่องสำอางค์บนใบหน้าไม่สะอาด ส่งผลเสียต่อผิวเช่นกัน
- อาหารที่รับประทานเข้าไปไม่เหมาะสม อาการแพ้อาหารเรารับประทานเข้าไป ส่งผลต่อผิว อย่างเช่น อาหารทะเล จะส่งผลเกิดบวม แดง เป็นผื่นแดง ไม่เว้นแม้แต่เครื่องดื่มแอลกอฮอร์ บุหรี่ล้วนแต่ทำลายผิวพรรณ
- ทานน้ำน้อยทำให้ร่างกายขาดน้ำผิวจึงแห้งกร้าน
- อยู่ในสภาวะแวดล้อมที่ไม่เหมาะสม เช่น ในถนนพบเจอกับควันรถยนต์เยอะๆ ควันบุหรี่ ลำคลองที่มีน้ำเน่าเสีย เป็นต้น
- การสัมผัสกับอากาศร้อน เย็นมากเกินไป เช่น การอยู่ในห้องแอร์บ่อยๆ การทำซาวน่า การนอนอาบแดด เป็นสภาวะที่ผิวปรับตัวไม่ถูกซึ่งไม่เหมาะสมกับผิว
- เกิดจากการดูแลผิวที่ไม่ถูกต้อง เช่น การนวดหน้าไม่ถูกวิธี การเลือกใช้ครีมบำรุงผิวไม่เหมาะกับผิว ใช้สูตรพอกหน้าหรือมาร์คหน้าที่มีสารรุนแรงกับผิวหน้า
ครีมที่เหมาะกับผิวแห้ง
ครีมบำรุงผิว
ครีมบำรุงผิวหน้าของสาวผิวแห้ง ควรครีมที่มีส่วนผสมของมอยเจอร์ไรเซอร์ แบบโลชั่น หรือแบบน้ำ เช่น เบบี้ออยล์ ฮาดะลาโบะ SK-II เจลว่านหางจระเข้ เป็นต้น เนื้อครีมสามารถซึมเข้าสู่ผิวง่าย ช่วยบำรุงผิว ลดความแห้งกร้านพื้นฟูผิวให้กับมาชุ่มชื่นได้อีกครั้ง ส่วนครีมที่มีส่วนผสมของ AHA ให้พักไว้ก่อน หลังทาครีมควรนวดหน้าเบาๆ เพื่อให้ครีมซึมสู่ผิวได้ดียิ่งขึ้น และยังช่วยในเรื่องการผ่อนคลายอีกด้วยครีมกันแดด
ครีมกันแดดที่ดีของผิวแห้งควรเป็นแบบโลชั่น SPF 15-30 ก็เพียงพอแล้ว เพราะถ้า SPF สูงๆ เนื้อครีมจะมีความเข้มข้นสูง ทำให้ครีมซึมสู่ผิวได้ยาก ประสิทธิภาพของครีมลดน้อยลง เกิดส่วนเกินบนใบหน้าทำให้หน้ามัน ผลที่ตามมาก็คือ สิว นั่นเองค่ะ
จำไว้ก่อนซื้อครีมทุกครั้งต้องทดสอบก่อน ไม่ว่าจะยี่ห้อไหนก็ตาม ให้ทาครีมบริเวณท้องแขนทิ้งไว้สักครู่ ถ้าไม่เกิดอาการแพ้ คัน เป็นผื่นแดง แสดงว่าไว้วางใจได้
วิธีบำรุงผิวหน้าของสาวผิวแห้ง
ผิวแห้งเป็นผิวที่บอบบางและแพ้ง่าย วิธีที่ดูแลผิวหน้าให้เน้นด้านการบำรุงผิว การพอกหน้าหรือการมาส์กหน้า คือการบำรุงผิวหน้าที่ดีที่สุด ช่วยให้ผิวมีความสดใสดูอ่อนกว่าวัย รวมทั้งยังสามารถขจัดสิวเสี่ยน และจุดด่างดำออกไปจากใบหน้าได้ และการมาส์กหน้านั่นนับว่ามีความปลอดภัยต่อผิวหน้าเป็นอย่างมาก สำหรับคนผิวแห้งการพอกหน้าควรใช้สูตรที่อ่อนโยนถนอมผิว เพิ่มความชุ่มชื่น และควรงดส่วนผสมที่มีกรด เพราะจะทำให้ผิวลอกเข้าไปอีก1. สูตรบำรุงผิวแห้งกร้าน
- โยเกิร์ตธรรมชาติ ½ ถ้วย
- น้ำผึ้ง 2 ช้อนโต๊ะ
- อะโวคาโด 1 ผล
วิธีใช้
- ล้างและผ่าผลอะโวคาโด เป็น 2 ซีก ใช้ช้อนขูดเอาเนื้ออะโวคาโดปั่นรวกับ น้ำผึ้ง และ โยเกิร์ต ให้อะเอียดเป็นเนื้อเดียวกัน
- นำมาพอกหน้า 15 นาที เว้นรอบดวงตาและริมฝีปาก แล้วล้างออกด้วยน้ำอุ่น สูตรนี้ควรทำต่อเนื่องสัปดาห์ละ 2-3 ครั้ง ผิวจะเนียนนุ่ม ชุ่มชื่ม รูขุมขนเล็กกระชับขึ้น ไม่มีปัญหาริ้วรอยกวนใจคุณอีก
2. สูตรเพิ่มความสดใสให้ผิวหน้า
- งา 1 ช้อนชา
- น้ำผึ้ง 1 ช้อนชา
- กล้วยหอม 1 ผล
- นำส่วนผสมทั้งหมดปั่นรวมกันให้ละเอียดเป็นเนื้อเดียวกัน
- นำมาพอกหน้าให้ทั่วใบหน้า เว้นรอบดวงตาและริมฝีปาก ทิ้งไว้ 20 นาที แล้วล้างออกด้วยน้ำอุ่นๆ ตามด้วยทาโลชั่นบำรุงผิวหน้า
3. สูตรบำรุงผิวแห้งให้เนียนนุ่มชุ่มชื่น
- ว่านหางจระเข้ 1 ก้าน
- แตงกวา 1 ลูก
- น้ำผึ้ง 1 ช้อนโต๊ะ
- ปอกว่านหางจระเข้เอาส่วนที่เป็นวุ้น นำส่วนผสม แตงกวา และน้ำผึ้ง ปั่นรวมกันให้ละเอียดเป็นเนื้อเดียวกัน
- นำมาพอกหน้าให้ทั่วใบหน้า เว้นรอบดวงตาและริมฝีปาก ทิ้งไว้ 20 นาที แล้วล้างออกด้วยน้ำอุ่นๆ ตามด้วยทาโลชั่นบำรุงผิวหน้า
สาวผิวแห้งควรระวังให้ดี
1. อย่าอาบน้ำอุ่น การอาบน้ำอุ่นบ่อยๆ และร้อนเกินไป จะทำให้สูญเสียน้ำมันบนผิวหนัง ที่มีหน้าที่ในการกักเก็บความชุ่มชื่นของผิว ทางที่ดีควรอาบน้ำในอุณหภูมิห้องเพื่อกระตุ้นเซลล์ผิวให้ตื่นตัวช่วยให้เลือดไหลเวียนมาเลี้ยงสู่ผิวหนังได้ดีและสดชื่นอยู่เสมอ แต่ถ้าไม่ไหวจริงๆ ควรอาบน้ำอุ่นในอุณหภูมิที่พอดี จึงจะดีกับผิว2. อย่าอาบน้ำนาน การอาบน้ำเป็นเวลานานๆหรือการแช่น้ำ จะทำให้ผิวขาดความชุ่มชื่น เนื่องจากสูญเสียน้ำมันที่เคลือบผิว ดังนั้นควรอาบน้ำ 10-15 นาที เพราะยิ่งอาบนานเท่าไร ยิ่งสูญเสียน้ำในผิวมากยิ่งขึ้น
3. อย่าล้างหน้าบ่อย การล้างหน้าเป็นการขจัดสิ่งสกปรกบนใบหน้า ช่วยกำจัดสิ่งเซลล์ที่ตายแล้วหลุดออกไป ทำให้หน้าสะอาดใส การล้างหน้าที่ดีควรล้างวันละครั้ง คือช่วงเย็น เพราะระหว่างวันเราต้องพบเจอสิ่งแปลกปลอมสะสมบนใบหน้ามากมาย ส่วนตอนเช้าให้ล้างด้วยน้ำสะอาดก็เพียงพอแล้ว
4. อย่าขัดผิวตอนผิวลอกเป็นขุย ในขณะที่ผิวอ่อนแอ การขัดผิวจะเป็นการซ้ำเติมผิว ให้ผิวบางและยากต่อการรักษาให้หายได้ง่าย
5.อย่าลืมทาครีมตอนผิวเปียกหมาดๆ เนื่องจากขณะที่อาบน้ำผิวสูญเสียความชุ่มชื่น ดังนั้นหลังอาบน้ำเสร็จควรเช็ดตัวให้หมาดๆ แล้ว รีบทาเบบี้ออยล์ หรือโลชั่น ทั่วทุกส่วนของร่างกาย ให้เร็วที่สุด เพราะขนาดนั้นผิวต้องการปกป้องเป็นพิเศษ
6. อย่าท้าแดด การเดินตากแดด นอนอาบแดด เป็นการท้าทายแดดที่ไม่ดีกับผิวซะเหลือเกิน แม้ว่าคุณจะมั่นใจในครีมกันแดดมากเท่าไร แต่แดดก็คือแดด มันทำร้ายผิวให้ไหม้ได้เสมอ
7. อย่าลืมใส่เสื้อผ้าให้มิดชิด ใส่เสื้อผ้าให้มิดชิดเข้าไว้ ถ้าช่วงนั้นผิวคุณไม่พร้อมที่จะโชว์ใคร เพื่อรักษาหน้าของคุณ และผิวของคุณด้วย การใส่เสื้อผ้ามิดชิดจะช่วยให้ถนอมผิวลดการเสียความชุ่มชื่นของผิว
8. อย่าลืมพกโลชั่นติดตัวไว้ ไม่ว่าคุณจะไปไหนควรหาโลชั่นพกติดตัวไว้ใช้ในยามฉุกเฉิน เมื่อเห็นผิวแห้งตรงไหนให้ทาบ่อยๆ จะได้ดูไม่น่าเกลียดนะค่ะ
9. อย่าลืมดูแลริ้วรอยรอบดวงตา ถ้าหน้าแห้งมีหรอที่รอบดวงตาจะไม่แห้งด้วย คุณควรทาครีมบำรุงรอบดวงตาเป็นประจำ และหาเวลาดูแลผิวรอบดวงตาด้วยเช่น แตงกวาหรือถุงชาอุ่นๆ ประคบดวงตา เป็นต้น เพราะผิวส่วนนี้จะเกิดริ้วรอยร่องลึงได้ง่าย แต่รักษายาก
10. อย่าลืมดูแลริมฝีปากและเส้นผมด้วย ยิ่งหน้าหนาวแล้วปากแห้งลอกเป็นแพ เส้นผมฟูไม่มีน้ำหนัก ควรคุณใส่ใจหมั่นทาลิปมัน ลิปบาล์ม ที่ริมฝีปากสม่ำเสมอเพื่อริมฝีปากที่อวบอิ่มเป็นที่น่ามอง ส่วนเส้นผมก็ควรหมักผมก่อนสระ โดย ออยล์ หรือน้ำมันมะกอห และใช้ทรีทเม้นท์เพื่อให้เส้นผมมีน้ำหนักจัดทรงง่ายไม่แห้งฟู
11. อย่าอารมณ์เสีย หน้าตาดีแต่อารมณ์ไม่ดี อย่างงี้ไม่มีใครอยากจะเข้าใกล้นะจ่า แถมถ้าใครอารมณ์บูดๆ บ่อย ริ้วรอยก็จะถามหาเอานะจ่า
ผิวแห้งควรทานอาหารแบบไหน
ทานอาหารควบคู่กับการดูแลผิวจะช่วยให้ผิวแห้งหายได้เร็วขึ้น ให้เน้นอาการที่อุดมไปด้วยกากไย โปรตีน และไขมันที่จำเป็นต่อร่างกาย เช่น ปลาแซลมอล เนื้อติดมัน ไขมันจากปลา ผัก และผลไม้ อาหารเสริม เช่น วิตามินC E น้ำมันตับปลา เป็นต้น เพื่อเสริมให้ผิวชั้นในมีความยืดหยุ่น และช่วยพื้นฟูเซลล์ให้ผิวดูสดใส อวบอิ่มของสาวๆจริงๆเราก็คนเหนือแต้ๆเจ้า เจอหนาวทุกปี ผิวเราน่าจะมีความทนทานกะเค้าบ้างน่ะ แต่ไม่วายหน้าลอกเป็นขุยทุกปี วิธีที่ดีที่สุดคือตัวเราเองค่ะ หมั่นดูแลผิว ไม่ให้ผิวแห้งจะเกิดริ้วรอยและผิวแห้งแตกเป็นขุยได้ง่าย โดยเฉพาะบริเวณแก้มและหน้าผาก และยิ่งหน้าหนาวแล้วปัญหา หน้าลอกเป็นขุย จะเป็นปัญหาระดับชาติ ทาครีมหาย ทาแป้งไม่ได้ ไม่งั้นหน้าวอกเป็นลิงเลยจ้า วิธีแก้ง่ายๆ ของนู๋หญิงเวลาหน้าลอกเป็นขุย ดังนี้
เช้า
ล้างหน้าด้วยน้ำเปล่า และหลังจากอาบน้ำเสร็จรีบเช็ดตัว แล้วทาเบบี้ออยล์ ตามด้วยเจลว่านหางจระเข้ ตามด้วยครีมต่างๆ เว้นระยะห่างทาครีม 5 นาทีเย็น
ล้างหน้าด้วยโฟมล้างหน้า และทาครีมเหมือนตอนเช้า ก่อนนอนทาวาสลีนเจลหนาๆ แล้วไปนอน
หากระหว่างวันคุณมีธุระต้องไปทำอาจจะต้องทาเวสลีนเจลบางๆ แล้วตบด้วยแป้งจะช่วยปกปิดผิวลอกได้ดีเชียว แต่ให้ระวังเรื่องสิวอุดตันด้วย ทำแบบนี้ 3-4 วัน หน้าจะหายลอกเป็นขุย กลับมาสวยใสได้เหมือนเดิมแล้วค่ะ
เรื่องร่างกายและผิวพรรณเราจะมองข้ามไม่ได้จริง เพราะผิวอยู่กับเราไปทุกที การดูแลจึงเป็นเรื่องที่สำคัญมากๆ ถ้าใครผิวแห้งอย่างลืมเอาวิธีนี้ไปใช้ดูนะคะ
0 ความคิดเห็น :
แสดงความคิดเห็น